K & S Associates

川島 & スワンモントリー アソシエイツ

วิเคราะห์สถานการณ์เครษฐกิจ สังคม และการเมืองเอเชียเป็นภาษาไทยด้วยมุมมองจากญี่ปุ่น สำหรับคนไทยโดยเฉพาะ

เศรษฐกิจจีนพลิกผันแน่ เตรียมใจไว้ได้

 

   ฉบับที่แล้วกล่าวถึงภาวะฟองสบู่จีนที่สิ้นสุดลงแล้วโดยเห็นได้จากยอดขายสุราหรูที่ตกลงอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยที่พึ่งจีนในฐานะลูกค้ารายใหญ่ภาคธุรกิจส่งออกอาจได้รับผลกระทบไปด้วย แต่ว่าภาวะฟองสบู่จีนนั้นแตกในลักษณะใด จะเหมือนกับเหตุการณ์ Lehman Shock ในสหรัฐอเมริกาปี 2551ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกหรือไม่

   หากเริ่มวิเคราะห์จากรุ่นพี่ผู้มีประสบการณ์ฟองสบู่แตกมาก่อนอย่างญี่ปุ่นแล้วจะเห็นความแตกต่างได้พอสมควร ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งมาก และรัฐบาลมีกำลังทรัพย์มาก การที่จะช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคารต่างๆนั้นต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่ายในรัฐสภา ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากมากเพราะธนาคารที่การเงินขัดสนมักเป็นเพราะการปล่อยกู้ทั้งๆที่ผู้กู้มีความน่าเชื่อถือต่ำบ้าง การปล่อยกู้แก่ธุรกิจความเสี่ยงสูงบ้าง ทำให้ธนาคารไม่ได้เงินคืน สภาบางส่วนย่อมไม่เห็นด้วยที่จะใช้ภาษีของประชาชนด้วยสาเหตุเช่นนี้ และเมื่อฟองสบู่ที่มีอายุตลอด 20 ปีได้แตกลง เสถียรภาพของรัฐบาลญี่ปุ่นก็หายไปด้วย

           เหตุการณ์เช่น Lehman Shock คงจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับประเทศคอมมิวนิสต์อย่างจีนได้ ระบอบคอมมิวนิสต์ในแง่หนึ่งถือว่าส่งผลดีต่อการจัดการเศรษฐกิจฟองสบู่ เพราะรัฐบาลมีอำนาจเด็ดขาดในการตัดสินใจใช้เงินคลังอุดหนุนสถาบันการเงินต่างๆในประเทศ โดยสามารถกำหนดปริมาณเงินได้ตามใจชอบและไม่จำเป็นต้องชี้แจงต่อสาธารณะ แม้ว่าเศรษฐกิจฟองสบู่จะแตกก็ตาม สถาบันการเงินต่างๆก็จะไม่ล้มในเร็วพลันเพราะไม่มีฝ่ายที่คัดค้านการตัดสินใจของรัฐบาลจีนได้ ต่อให้รัฐบาลมีเงินไม่พออุดหนุน ก็สามารถพิมพ์ธนบัตรเพิ่มได้ทันที

           อย่างไรก็ตาม หากจีนกระทำเช่นนี้จนติดนิสัย มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดภาวะเงินเฟ้อเฉียบพลันจนรัฐบาลเองก็ไม่สามารถควบคุมได้ สถาบันการเงินจะเกิดปัญหาในที่สุด อีกประเด็นปัญหาหนึ่งคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของจีนเองมีความเกี่ยวเนื่องชัดเจนกับรัฐบาลกลาง และจะได้รับผลกระทบไม่น้อยเป็นเงาตามตัว ซึ่งจะกล่าวอย่างละเอียดในฉบับต่อไป

           สรุปแล้วประเทศทั้งหลายในเอเชีย โดยเฉพาะประเทศไทยที่พึ่งพาเศรษฐกิจจีนตลอดมาย่อมต้องได้รับผลกระทบจากจีนที่จะเกิดปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน ดังนั้นประเทศไทย รวมถึงประเทศเอเชียอื่นๆควรจะเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้ มิฉะนั้นเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างงดงานตั้งแต่ปี 2523อาจเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ