K & S Associates

川島 & スワンモントリー アソシエイツ

วิเคราะห์สถานการณ์เครษฐกิจ สังคม และการเมืองเอเชียเป็นภาษาไทยด้วยมุมมองจากญี่ปุ่น สำหรับคนไทยโดยเฉพาะ

“ทักษิณ”ของญี่ปุ่น: นายทานากะ คะคุเอ

   หนังสือพิมพ์ต่างๆในญี่ปุ่นได้ติดตามข่าวการชุมนุมเพื่อต่อต้านนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรมาตลอด ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวนี้ทำให้ผู้เขียนนึกถึงอดีตนายกรัฐมนตรี “ทานากะ คะอุเอ” (TANAKA, Kakuei) เพราะชายคนนี้เป็นเสมือน “ทักษิณ” ของญี่ปุ่น

              นายทานากะเกิดในตระกูลสามัญชนไม่มีใครเป็นนักการเมือง ซึ่งไม่ต่างจากทักษิณที่เกิดในครอบครัวข้าราชการธรรมดาไม่มีความเกี่ยวดองกับฝ่ายทหารซึ่งเรืองอำนาจในยุคนั้นเลย แต่ทานากะลำบากกว่าตรงที่บิดาเสียชีวิตตั้งแต่เขายังเล็ก ทำให้ยากจนและเรียนจบเพียงชั้นประถมศึกษา ในขณะที่ทักษิณได้เล่าเรียนในโรงเรียนนายร้อยตำรวจและได้ทุนการศึกษาไปเรียนระดับบัณฑิตศึกษาที่สหรัฐอเมริกา ทั้งคู่ต่างประสบปัญหาทั้งด้านการเงินและอาชีพ ประสบความล้มเหลวอยู่หลายครั้งเพราะต่างก็ไม่มีเส้นสายหนุนหลัง แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดและความมานะจึงสามารถไต่เต้าจนได้ถึงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ ถ้าลำดับตามความอาวุโสแล้ว นายทานากะเป็นรุ่นพี่ทักษิณประมาณ 30 ปี เพราะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในปี คศ.1972 ด้วยวัย 54 ปี ซึ่งเป็นวัยเดียวกับที่ทักษิณเข้ารับตำแหน่ง

              ด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมา คิดอะไรทำจริงและทำเลยเหมือนนิสัยทักษิณ ทำให้ถูกขนานนามว่า “แทรกเตอร์สมองกล” เพราะสร้างผลงานเด็ดๆทั้งดีและไม่ดีไว้หลายชิ้นภายในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อดำรงตำแหน่งได้เพียง 2 ปี นายทานากะและคณะรัฐมนตรีของเขาก็ถูกกดดันจนต้องลาออกยกชุดในปี คศ.1974 หลังจากนั้นนายทานากะถูกตัดสินคดีในศาลชั้นต้นให้จำคุกแบบต้องใช้แรงงานเป็นเวลา 4 ปี แม้เจ้าตัวปฏิเสธไม่ยอมรับคำตัดสินและสู้คดีจนถึงศาลฎีกา แต่ร่างกายเขาก็ยอมแพ้ด้วยอาการหลอดเลือดในสมองอุตตันและเสียชีวิตในปี 1993 ขณะที่คดียังไม่ได้ข้อสรุป

              กรณีทักษิณอาจแตกต่างเล็กน้อยตรงที่ออกนอกประเทศเพื่อหนีคดี แต่บทบาททางการเมืองของเขาทั้งสองไม่ได้จบลงเลย ตั้งแต่โดนผลักจากเก้าอี้นายกฯ ทานากะ คะคุเอได้ชักใยการเมืองอยู่เบื้องหลังและผลักดันให้ลิ่วล้อของตนอย่าง โอฮิระ มาซาโยชิ และนากะโซเนะ ยาซึฮิโระเป็นนายกรัฐมนตรีได้สำเร็จ โดยเฉพาะนายนากะโซเนะที่แสดงออกชัดเจนว่าสืบทอดอำนาจการเมืองต่อจากนายทานากะจนถูกล้อว่า “ทานากะโซเนะ” แต่อย่างไรก็คงไม่เด็ดเท่าคนของประเทศไทยที่สามารถส่งน้องสาวแท้ๆมาบริหารประเทศแทนตนอย่างโจ่งแจ้ง

              ก่อนจะวิเคราะห์เชิงลึกของอดีตผู้นำทั้งสองในฉบับต่อไป ผู้เขียนมีความเห็นว่าลักษณะสังคมแบบอุปถัมถ์ของเอเชียเป็นปัจจัยสำคัญให้เกิดคนอย่างนายทานากะและทักษิณสร้างประวัติศาสตร์ขึ้น ไม่ใช่มีแต่ประเทศไทยที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพียงแต่ญี่ปุ่นเริ่มเป็นประเทศอุตสาหกรรมก่อนไทย 30 ปี จึงปรากฎตัวละครนี้ขึ้นก่อนอย่างที่ไทยเจออยู่ในขณะนี้ ต่อจากนี้ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจได้ยินข่าวทำนองนี้เกิดขึ้นกับฟิลิปปินส์หรืออินโดนิเซียเป็นได้