เบื้องหลังการเมืองที่ทำให้ญี่ปุ่นมีความเหลื่อมล้ำต่ำอย่างน่าประหลาด
ประเทศญี่ปุ่นมีประชากรทำเกษตรเป็นส่วนใหญ่มาช้านานเช่นเดียวกับประเทศไทย จึงเป็นประโยชน์ที่คนไทยจะศึกษาเบื้องหลังการเมืองญี่ปุ่น บางทีอาจเป็นประโยชน์กว่าการศึกษาการเมืองตะวันตกก็เป็นได้
ในวันที่ 21 กรกฎาคม พศ.2556 ที่จะถึงนี้ จะมีการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งหลายๆคนคาดว่าพรรค LDP (Liberal Democratic Party) จะชนะขาดรอย พรรค LDP นี้เคียงคู่กับการเมืองญี่ปุ่นมานาน เป็นพรรครัฐบาลตั้งแต่ปี พศ.2498 มีเพียง 2 ครั้งเท่านั้นที่ลุกจากเก้าอี้รัฐบาลในสภา นอกจากนั้นได้ครอบครองเก้าอี้รัฐบาลตลอดมา สภาพเศรษฐกิจและสังคมของญี่ปุ่นจึงเป็นไปตารมการบริหารประเทศของพรรค LDP นี้ตลอดมา
พรรค LDP ถูกเรียกว่าพรรคการเมืองหัวอนุรักษ์ เพราะการยึดจารีตประเพณีดั้งเดิมโดยมีจักรพรรดิวงศ์เป็นแบบอย่าง เช่น ต่อต้านการจดทะเบียนสมรสโดยไม่ใช้นามสกุลร่วมกัน หรือการแต่งงานของคนเพศเดียวกัน เป็นต้น แต่ในเรื่องเศรษฐกิจ แท้จริงแล้วพรรค LDP ญี่ปุ่นไม่ได้อนุรักษ์นิยมเบน แตกต่างจากของอังกฤษ หรือ อเมริกาอย่างมาก แม้ว่ายึดระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม แต่ก็มีการช่วยเหลือในด้านชีวิตความเป็นอยู่อย่างเต็มที่แก่ผู้มีความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจน้อย หรือถ้ากล่าวให้ถูกคือ ในทางปฏิบัติแล้วเป็นเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมนั่นเอง
ที่ผ่านมารัฐบาลพรรค LDP มีหน้าที่ควบคุมและลดความเหลื่อมล้ำด้านคุณภาพชีวิตระหว่างตัวเมืองกับชนบทแทนที่จะกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจเต็มตัว ซึ่งขัดแย้งกับรัฐบาลอนุรักษ์นิยมปกติ เพราะการพัฒนาด้วยอุตสาหกรรม (และพัฒนาด้วยการบริการตามมา) มีตัวเมืองเป็นศูนย์กลาง ยิ่งพัฒนา ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งตกอยู่กับคนเมือง
รัฐบาลพรรคนี้นำความมั่งคั่งจากคนเมืองกลับสู่ชนบท นำภาษีที่เก็บมาหมุนเวียนกลับไปให้รัฐบาลท้องถิ่น รัฐบาลท้องถิ่นก็นำเงินที่ได้มาพัฒนาระบบขนส่งและสาธารณูปโภคเป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังพยุงราคาข้าวสูงขึ้นเรื่อยๆให้ทัดเทียมกับค่าครองชีพในเมือง
ด้วยระบบการบริหารบ้านเมืองของรัฐบาล LDP นี้เองทำให้ประเทศญี่ปุ่นถูกกล่าวว่าเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีขนาดประชากรมาก แต่กลับมีความเหลื่อมล้ำในคุณภาพชีวิตของคนต่ำราวฟ้ากับดิน แถมมีเสถียรภาพทางการเมืองดีเสมอมา เบื้องหลังของประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำต่ำนี้ ยังมีอะไรเป็นสาเหตุอีก และมีข้อดีข้อเสียอื่นๆอย่างไรนั้น โปรดติดตามฉบับต่อไป
